คลิป
วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเตือนผู้ให้บริการ๓จี มาตรฐานความเร็วในการส่งข้อมูลต้องไม่ต่ำกว่า ๓๔๕ เค
อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เผย
บริษัทยังทำผิดเงื่อนไขใบอนุญาต เหตุเพราะโปรโมชั่น
กำหนดค่าเอฟยูพี  ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ใน ประกาศ
กสทช. คือต้องไม่ต่ำกว่า ๓๔๕ กิโลบิตต่อวินาทีหลังพบ
แจ้งมาตรฐานความเร็วขั้นต่ำที่ผู้บริโภคได้รับตกลงเหลือเพียง๖๔
กิโลบิตต่อวินาทีเท่านั้น พร้อมหนุน กสทช. 
เร่งรัดบริษัทลดค่าบริการให้ได้ร้อยละ ๑๕
 (๒๐ พ.ค.๕๖)  ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ 
อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า 
ที่ประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้มีการหารือกันเกี่ยวกับบริกา
ร ๓จี ในหลายประเด็น ซึ่งที่ประชุมได้มีมติสนับสนุนการดำเนินการของ 
กสทช กรณีเร่งรัดเพื่อให้เกิดการลดค่าบริการ ๓ จีลงร้อยละ ๑๕ 
ให้กับผู้บริโภค อย่างไรก็ตามที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ 
ยังพบว่าผู้ให้บริการยังไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบกิจการโทร
คมนาคมแบบที่ ๓ 
ในประเด็นคุณภาพการให้บริการและการคุ้มครองผู้ใช้บริการ ซึ่งระบุว่า 
ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีการควบคุมคุณภาพบริการให้เป็นไปตามประกา
ศคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตามประกาศ กสทช. เรื่อง 
มาตรฐานของคุณภาพการให้บริการโทรคมาคมประเภทข้อมูลสำหรับโครง
ข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ระบุว่า ความเร็วเฉลี่ยในการส่งข้อมูลของบริการ 
๓จี ต้องไม่ต่ำกว่า ๓๔๕ กิโลบิตต่อวินาที
อัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลต่ำกว่าที่กำหนดตามประกาศ กสทช. 
มาตรฐานของคุณภาพการให้บริการโทรคมนาคมประเภทข้อมูลสำหรับโค
รงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ คือความเร็วในการดาวน์โหลดต้องไม่ต่ำกว่า 
๓๔๕ กิโลบิตต่อวินาที และความเร็วในการอัปโหลดต้องไม่ต่ำกว่า ๑๕๓ 
กิโลบิตต่อวินาที แต่จากรายการส่งเสริมการขายใหม่เพื่อให้บริการ๓จี 
“จากข้อมูลโปรโมชั่นของผู้ให้บริการพบว่า  
พบว่าได้กำหนดอัตรารับรองในการรับส่งข้อมูลขั้นต่ำนั้นต่ำลงกว่าเมื่อครั้งเ
ป็นบริการ ๒G  คือ อัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลขั้นต่ำเหลือเพียง 
๖๔,๑๒๘และ ๒๕๖ กิโลบิตต่อวินาที เท่านั้น” 
อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคกล่าว
ดร.เดือนเด่นกล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังเห็นว่า 
ควรมีการกำหนดมินิมัมแพ็คเกจ 
ที่เป็นมาตรฐานไว้และหากพบว่ามีการใช้บริการเกินกว่ามิติมัมแพ็คเกจ 
ก็ควรมีการแจ้งเตือนกันผู้ใช้บริการ 
เพื่อป้องกันปัญหาค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ
“ผู้ให้บริการควรมีการแจ้งเตือนเรื่องค่าใช้จ่ายการใช้บริการ 
เช่นในต่างประเทศ 
หากการใช้บริการของผู้ใช้บริการมีการเปลี่ยนแปลงไปแบบผันผวนเช่น 
ใช้มากกว่าปกติไป ๒ ถึง ๓ เท่าตัว จะต้องแจ้งผู้ใช้บริการทราบ  
เพื่อเป็นกลไกในการคุ้มครองผู้บริโภคแบบอัตโนมัติ 
ซึ่งสำหรับประเทศไทยพบว่า 
มีบางบริษัทที่โทรสอบถามลูกค้าหากมีการใช้บริการที่มากผิดปกติ 
ซึ่งควรทำให้เป็นมาตรฐานเป็นการทั่วไป “ ดร.เดือนเด่นกล่าว
นอกจากนี้ยังพบว่า  ผู้บริโภคที่ใช้บริการ 
๓จีประสบปัญหาโดยรวมคือ กรณีโปรโมชั่นเดิม 
หรือลูกค้ารายเดิมที่เคยใช้บริการ๓จีภายใต้โครงข่าย 
๒จี นั้นพบว่า มีการลดค่าบริการให้จริง 
แต่บริษัทมิได้แจ้งรายละเอียดสิทธิประโยชน์ให้ผู้ใช้บริการทราบ 
เช่น  ลดค่าบริการให้ลูกค้าจาก ๖๙๙ บาทเหลือ ๔๙๙ บาท 
แต่ไม่แจ้งสิทธิประโยชน์ให้ทราบ ,ลดค่าบริการให้จริงแต่ก็ลดสิทธิประโย
ชน์ลงด้วย เช่น เคยใช้บริการเสียงได้ ๔๐๐ นาทีถูกลดเหลือ ๓๐๐ นาที , 
หรือยังไม่ดำเนินการลดค่าบริการให้กับผู้ใช้บริการเลย 
รวมถึงการไม่โอนย้ายเงินคงเหลือในระบบให้ใน 
กรณีการโอนย้ายบริการจาก ๒ จีไป๓จี ของผู้ใช้บริการระบบเติมเงิน 
หรือกรณีการโอนย้ายเครือข่ายแล้วไม่สามารถใช้บริการไม่ได้ 
เมื่อผู้ใช้บริการต้องการโอนย้ายไปผู้ให้บริการรายใหม่ 
แต่บริษัทไม่ดำเนินการให้โดยอ้างว่าต้องอยู่กับผู้ให้บริการรายเดิม 
๙๐ วัน ซึ่งประกาศ กสทช. 
ไม่เคยกำหนดให้ผู้ใช้บริการต้องกับอยู่ผู้ให้บริการรายเดิม ๙๐ วัน 
แต่ผู้ใช้บริการสามารถโอนย้ายเครือข่ายเมื่อใดก็ได้ ,ปัญหา
ความครอบคลุมของพื้นที่ให้บริการ เช่นมีการประชาสัมพันธ์ 
แต่ไม่มีการให้บริการในพื้นที่นั้น  เป็นต้น
วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)