วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเตือนผู้ให้บริการ๓จี มาตรฐานความเร็วในการส่งข้อมูลต้องไม่ต่ำกว่า ๓๔๕ เค



อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เผย
 
บริษัทยังทำผิดเงื่อนไขใบอนุญาต เหตุเพราะโปรโมชั่น
 
กำหนดค่าเอฟยูพี  ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ใน ประกาศ
 
กสทช. คือต้องไม่ต่ำกว่า ๓๔๕ กิโลบิตต่อวินาทีหลังพบ
 
แจ้งมาตรฐานความเร็วขั้นต่ำที่ผู้บริโภคได้รับตกลงเหลือเพียง๖๔
 
กิโลบิตต่อวินาทีเท่านั้น พร้อมหนุน กสทช.
 
เร่งรัดบริษัทลดค่าบริการให้ได้ร้อยละ ๑๕
 
 (๒๐ พ.ค.๕๖)  ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์
 
อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า
 
ที่ประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้มีการหารือกันเกี่ยวกับบริกา
 
ร ๓จี ในหลายประเด็น ซึ่งที่ประชุมได้มีมติสนับสนุนการดำเนินการของ
 
กสทช กรณีเร่งรัดเพื่อให้เกิดการลดค่าบริการ ๓ จีลงร้อยละ ๑๕
 
ให้กับผู้บริโภค อย่างไรก็ตามที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ
 
ยังพบว่าผู้ให้บริการยังไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบกิจการโทร
 
คมนาคมแบบที่ ๓
 
ในประเด็นคุณภาพการให้บริการและการคุ้มครองผู้ใช้บริการ ซึ่งระบุว่า
 
ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีการควบคุมคุณภาพบริการให้เป็นไปตามประกา
 
ศคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตามประกาศ กสทช. เรื่อง
 
มาตรฐานของคุณภาพการให้บริการโทรคมาคมประเภทข้อมูลสำหรับโครง
 
ข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ระบุว่า ความเร็วเฉลี่ยในการส่งข้อมูลของบริการ
 
๓จี ต้องไม่ต่ำกว่า ๓๔๕ กิโลบิตต่อวินาที
 
อัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลต่ำกว่าที่กำหนดตามประกาศ กสทช.
 
มาตรฐานของคุณภาพการให้บริการโทรคมนาคมประเภทข้อมูลสำหรับโค
 
รงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ คือความเร็วในการดาวน์โหลดต้องไม่ต่ำกว่า
 
๓๔๕ กิโลบิตต่อวินาที และความเร็วในการอัปโหลดต้องไม่ต่ำกว่า ๑๕๓
 
กิโลบิตต่อวินาที แต่จากรายการส่งเสริมการขายใหม่เพื่อให้บริการ๓จี
 
“จากข้อมูลโปรโมชั่นของผู้ให้บริการพบว่า 
 
พบว่าได้กำหนดอัตรารับรองในการรับส่งข้อมูลขั้นต่ำนั้นต่ำลงกว่าเมื่อครั้งเ
 
ป็นบริการ ๒G  คือ อัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลขั้นต่ำเหลือเพียง
 
๖๔,๑๒๘และ ๒๕๖ กิโลบิตต่อวินาที เท่านั้น”
 
อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคกล่าว
 
ดร.เดือนเด่นกล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังเห็นว่า
 
ควรมีการกำหนดมินิมัมแพ็คเกจ
 
ที่เป็นมาตรฐานไว้และหากพบว่ามีการใช้บริการเกินกว่ามิติมัมแพ็คเกจ
 
ก็ควรมีการแจ้งเตือนกันผู้ใช้บริการ
 
เพื่อป้องกันปัญหาค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ
 
“ผู้ให้บริการควรมีการแจ้งเตือนเรื่องค่าใช้จ่ายการใช้บริการ
 
เช่นในต่างประเทศ
 
หากการใช้บริการของผู้ใช้บริการมีการเปลี่ยนแปลงไปแบบผันผวนเช่น
 
ใช้มากกว่าปกติไป ๒ ถึง ๓ เท่าตัว จะต้องแจ้งผู้ใช้บริการทราบ 
 
เพื่อเป็นกลไกในการคุ้มครองผู้บริโภคแบบอัตโนมัติ
 
ซึ่งสำหรับประเทศไทยพบว่า
 
มีบางบริษัทที่โทรสอบถามลูกค้าหากมีการใช้บริการที่มากผิดปกติ
 
ซึ่งควรทำให้เป็นมาตรฐานเป็นการทั่วไป “ ดร.เดือนเด่นกล่าว
 
นอกจากนี้ยังพบว่า  ผู้บริโภคที่ใช้บริการ
 
๓จีประสบปัญหาโดยรวมคือ กรณีโปรโมชั่นเดิม
 
หรือลูกค้ารายเดิมที่เคยใช้บริการ๓จีภายใต้โครงข่าย
 
๒จี นั้นพบว่า มีการลดค่าบริการให้จริง
 
แต่บริษัทมิได้แจ้งรายละเอียดสิทธิประโยชน์ให้ผู้ใช้บริการทราบ
 
เช่น  ลดค่าบริการให้ลูกค้าจาก ๖๙๙ บาทเหลือ ๔๙๙ บาท
 
แต่ไม่แจ้งสิทธิประโยชน์ให้ทราบ ,ลดค่าบริการให้จริงแต่ก็ลดสิทธิประโย
 
ชน์ลงด้วย เช่น เคยใช้บริการเสียงได้ ๔๐๐ นาทีถูกลดเหลือ ๓๐๐ นาที ,
 
หรือยังไม่ดำเนินการลดค่าบริการให้กับผู้ใช้บริการเลย
 
รวมถึงการไม่โอนย้ายเงินคงเหลือในระบบให้ใน
 
กรณีการโอนย้ายบริการจาก ๒ จีไป๓จี ของผู้ใช้บริการระบบเติมเงิน
 
หรือกรณีการโอนย้ายเครือข่ายแล้วไม่สามารถใช้บริการไม่ได้
 
เมื่อผู้ใช้บริการต้องการโอนย้ายไปผู้ให้บริการรายใหม่
 
แต่บริษัทไม่ดำเนินการให้โดยอ้างว่าต้องอยู่กับผู้ให้บริการรายเดิม
 
๙๐ วัน ซึ่งประกาศ กสทช.
 
ไม่เคยกำหนดให้ผู้ใช้บริการต้องกับอยู่ผู้ให้บริการรายเดิม ๙๐ วัน
 
แต่ผู้ใช้บริการสามารถโอนย้ายเครือข่ายเมื่อใดก็ได้ ,ปัญหา
 
ความครอบคลุมของพื้นที่ให้บริการ เช่นมีการประชาสัมพันธ์
 
แต่ไม่มีการให้บริการในพื้นที่นั้น  เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น