ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ในฐานะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า การคุ้มครองผู้บริโภคในกรณีของการหมดอายุสัญญาสัมทานคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ ควรปฏิบัติดังนี้
1. กสทช.
ต้องแจ้งให้ผู้บริโภคทราบว่าบริการของทั้งสองบริษัทจะสิ้นสุดลงภายในวันที่ 15
กันยายน 2556 อย่างเร่งด่วนเนื่องจากมีเวลาเหลืออีกเพียง
8 เดือน และ ดำเนินการผู้บริโภคสามารถเลือกโอนย้ายค่ามือถือตามความประสงค์
2. กสทช.
ต้องมีมาตรการในการโอนย้ายลูกค้าที่ต้องการรักษาเลขหมายเดิม (number
portability) โดยดำเนินการให้ผู้ประกอบการเพิ่มขีดวามสามารถของบริการโอนย้ายเลขหมายให้เพิ่มจากในปัจจุบันที่
4000 เลขหมายต่อวันเป็น 40,000 เลขหมายต่อวันตามศักยภาพของ
clearing house เพื่อรองรับจำนวนลูกคาชอง
True กว่า 17 ล้านรายที่จะได้รับผลกระทบจากการโอนย้าย
(หากโอนย้ายได้วันละ 40,000 เลขหมายจะยังคงใช้เวลา 425
วัน)
3. ผู้ประกอบการต้องดำเนินการตรวจสอบรายชื่อผู้ใช้บริการที่ไม่
ได้ลงทะเบียนทาง SMS เพื่อแจ้งใหใทราบและให้แสดงเจตจำนงค์ในการย้ายเครือข่าย
4. ผู้ประกอบการต้องระงับและปรับ
package
ที่ผูกพันหลักการสิ้นสุดสัญญาโดย กสทช. ให้ความเห็นชอบ มิฉะนั้นแล้ว
จะต้องกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการรายใหม่จะต้องรับผิดชอบ package โดยต้องเจรจาร่วมกับ ผู้ประกอบการรายเดิมเรื่องการโอนย้ายรายได้
5. กสทช.
จะต้องออกประกาศ หลักการในการโอนย้ายผู้ใช้บริการ (migration
rules) อย่างเร่งด่วน
ซึ่งจะกำหนดแผนงานในการดำเนินการของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อ ง เพื่อมิให้เกิดปัญหา
“จอดำ” ในวันที่ 16 กันยายน 2556 แผนดังกล่าวจะต้องมีรายละเอียดดังนี้
5.1.
หลักการในการโอนย้ายผู้ใช้บริการที่ไม่เลือกปฏิบัติ
5.2.
หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ให้บริการที่สัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดลง
5.3.
แผนการรองรับการโอนย้ายที่มีขั้นตอนและระยะเวลาที่ชัดเจน เช่น ประกาศกำหนดวันที่ผู้ประกอบการจะหยุดให้บริการ
การแจ้งเตือนผู้ใช้บริการ
5.4.
วิธีการดำเนินการสำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการย้าย
(non order disconnection or transfer)
5.5.
วิธีการโอนเงินคงค้างในระบบให้แก่ผู้ประกอบการรายใหม่
5.6. แนวทางในการระงับข้อพิพาทที่เกิดจากการโอนย้าย (มีผู้กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องมีระบบรองรับ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น