(28 ม.ค. 56)
นางสาวสารี
อ๋องสมหวัง
ประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม
เปิดเผยว่า
ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ กสทช. โดยเฉพาะสำนักงาน กสทช.
ที่พยายามผลักดันงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคมากขึ้น
อย่างไรก็ตามสำหรับปัญหาเรื่อง
การกำหนดระยะเวลาโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้า
หรือการกำหนดระยะเวลาการใช้โทรศัพท์ระบบเติมเงินนั้น แม้ว่าขณะนี้สำนักงาน กสทช.
จะได้มีคำสั่ง จนทำให้เอไอเอสและทรูมูฟ
ยุติการกำหนดระยะการใช้บริการจนกว่าการพิจารณาเพื่อให้มีการกำหนดระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์เติมเงินจะแล้วเสร็จ
นั้น ซึ่งเรื่องจะเข้าสู่การพิจารณาของ กรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เนื่องจากตามประกาศ
มาตรฐานของสัญญาการให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๑๑ ระบุว่า
ห้ามโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทชำระค่าบริการล่วงหน้ากำหนดระยะเวลาการใช้บริการ
ยกเว้นได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการ ซึ่งหมายถึง กทค. ซึ่งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งเอไอเอสและทรูมูฟ
ได้ยื่นข้อเสนอแล้วว่า ให้ผู้ใช้บริการเติมเงินทุกมูลค่า
จะสามารถใช้บริการได้ไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน
“
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีวาระที่มีการนำเข้าพิจารณาใน กทค.
โดยมีความพยายามที่จะอนุมัติตามที่ผู้ให้บริการเสนอคือ
เติมเงินเท่าไหร่อยู่ได้เพียง 30 วัน ซึ่งเป็นภาระกับผู้บริโภคอีกเช่นเดิม
เพราะต้องคอยเติมเงินเข้าสู่ระบบทุกเดือน
อย่างไรก็ตามข้อเสนอดังกล่าวได้ถูกคัดค้านจาก กสทช.เสียงข้างน้อย
เพราะจากความพยายามในการหารือกับบริษัทมาหลายครั้ง เช่น
ปีที่แล้วซึ่งได้เชิญผู้ประกอบการมาหารือ บริษัทได้เคยเสนอจำนวนวันที่ ๖๐
วัน
และมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดแต่ไม่ได้รับการอนุมัติ
แต่หากการเสนอครั้งนี้แล้วที่ประชุมจึงรีบเห็นชอบ ก็จะถูกตั้งคำถามจากหลายฝ่ายได้ สำหรับที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ นั้นเห็นว่า
เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับผู้บริโภค หากผู้ใช้บริการยังมีเงินเหลืออยู่ในระบบต้องสามารถใช้บริการได้
คงต้องขอให้ประชาชนช่วยพิจารณาด้วยว่า
การอนุมัติของ กทค.ครั้งนี้จะยืนอยู่ข้างใคร” นางสาวสารีกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น