วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประธานอนุคุ้มครองผู้บริโภคฯ เรียกร้อง กทค.พิจารณากำหนดระยะเวลาพรีเพด อย่าสร้างภาระผู้บริโภค ต้องเติมเงินทุกเดือน พร้อมเสนอหากมีเงินของตัวเหลืออยู่ในระบบต้องสามารถ ใช้บริการได้



(28 ม.ค. 56) 
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง 
ประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม
เปิดเผยว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ กสทช. โดยเฉพาะสำนักงาน กสทช. ที่พยายามผลักดันงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคมากขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับปัญหาเรื่อง การกำหนดระยะเวลาโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้า หรือการกำหนดระยะเวลาการใช้โทรศัพท์ระบบเติมเงินนั้น แม้ว่าขณะนี้สำนักงาน กสทช. จะได้มีคำสั่ง จนทำให้เอไอเอสและทรูมูฟ ยุติการกำหนดระยะการใช้บริการจนกว่าการพิจารณาเพื่อให้มีการกำหนดระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์เติมเงินจะแล้วเสร็จ นั้น ซึ่งเรื่องจะเข้าสู่การพิจารณาของ กรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เนื่องจากตามประกาศ มาตรฐานของสัญญาการให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๑๑ ระบุว่า ห้ามโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทชำระค่าบริการล่วงหน้ากำหนดระยะเวลาการใช้บริการ ยกเว้นได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการ ซึ่งหมายถึง กทค.  ซึ่งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งเอไอเอสและทรูมูฟ ได้ยื่นข้อเสนอแล้วว่า ให้ผู้ใช้บริการเติมเงินทุกมูลค่า จะสามารถใช้บริการได้ไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน
   “ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีวาระที่มีการนำเข้าพิจารณาใน กทค. โดยมีความพยายามที่จะอนุมัติตามที่ผู้ให้บริการเสนอคือ เติมเงินเท่าไหร่อยู่ได้เพียง  30 วัน ซึ่งเป็นภาระกับผู้บริโภคอีกเช่นเดิม เพราะต้องคอยเติมเงินเข้าสู่ระบบทุกเดือน อย่างไรก็ตามข้อเสนอดังกล่าวได้ถูกคัดค้านจาก กสทช.เสียงข้างน้อย เพราะจากความพยายามในการหารือกับบริษัทมาหลายครั้ง เช่น ปีที่แล้วซึ่งได้เชิญผู้ประกอบการมาหารือ บริษัทได้เคยเสนอจำนวนวันที่ ๖๐
วัน และมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดแต่ไม่ได้รับการอนุมัติ แต่หากการเสนอครั้งนี้แล้วที่ประชุมจึงรีบเห็นชอบ ก็จะถูกตั้งคำถามจากหลายฝ่ายได้  สำหรับที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ นั้นเห็นว่า เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับผู้บริโภค หากผู้ใช้บริการยังมีเงินเหลืออยู่ในระบบต้องสามารถใช้บริการได้ คงต้องขอให้ประชาชนช่วยพิจารณาด้วยว่า การอนุมัติของ กทค.ครั้งนี้จะยืนอยู่ข้างใคร” นางสาวสารีกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น